การสครับผิวเป็นขั้นตอนสำคัญในกิจวัตรการดูแลผิวที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เผยผิวใหม่ที่สดใสและสุขภาพดี หากเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว ผลลัพธ์ที่ได้จะดีเยี่ยม แต่หากเลือกผิดอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือแห้งลอก การเลือกสครับที่เหมาะสมต้องพิจารณาส่วนผสมและลักษณะของผิว วันนี้เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจสภาพผิวของตัวเอง และเลือกสครับที่ตอบโจทย์ที่สุด พร้อมเคล็ดลับการใช้อย่างได้ผล
การสครับผิวไม่ได้เป็นเพียงการขัดถูผิวอย่างง่าย ๆ แต่มีประโยชน์มากมายที่ส่งเสริมสุขภาพผิว:
● ผลัดเซลล์ผิวเก่า: เซลล์ผิวเก่าที่สะสมบนชั้นผิวหนังอาจทำให้ผิวหมองคล้ำและไม่เรียบเนียน การสครับช่วยกำจัดเซลล์เหล่านี้และเผยผิวใหม่
● ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต: การนวดวนขณะสครับช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง
● ช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวซึมซาบได้ดีขึ้น: เมื่อไม่มีสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้วมาขวาง การบำรุงจากครีม โลชั่น หรือเซรั่มจะซึมลึกเข้าสู่ผิวได้ดีกว่า
● ลดปัญหาสิวและรูขุมขนอุดตัน: สำหรับคนที่มีปัญหาสิว การสครับช่วยทำความสะอาดรูขุมขนและลดการสะสมของแบคทีเรีย
ข้อควรระวัง:
● หลีกเลี่ยงการสครับผิวทุกวัน เพราะอาจทำให้ผิวบางลงและระคายเคือง
● หากผิวมีแผลหรือสิวอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงการสครับบริเวณนั้น
ผิวแห้งเป็นผิวที่ขาดความชุ่มชื้น มักมีอาการลอกเป็นขุย และรู้สึกตึงหลังล้างหน้า การเลือกสครับที่เหมาะสมสำหรับผิวแห้งต้องคำนึงถึงการให้ความชุ่มชื้นควบคู่ไปด้วย
ส่วนผสมที่ควรมองหา:
● เชียบัตเตอร์ และ น้ำมันมะพร้าว: ให้ความชุ่มชื้นลึกและช่วยบำรุงผิว
● น้ำตาล หรือ เกลือเนื้อละเอียด: ทำหน้าที่เป็นเม็ดสครับที่อ่อนโยน
● กลีเซอรีน: ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้น
ตัวอย่างสครับ:
● สครับโยเกิร์ตน้ำผึ้ง: เหมาะสำหรับการผลัดผิวโดยไม่ทำให้ผิวแห้ง
● สครับน้ำตาลผสมน้ำมันอัลมอนด์: ช่วยขจัดเซลล์ผิวและให้ความชุ่มชื้นในขั้นตอนเดียว
เคล็ดลับการสครับผิวแห้ง:
● สครับผิวในห้องน้ำขณะที่ผิวเปียกเพื่อช่วยลดการเสียดสี
● หลังสครับ ควรตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่เข้มข้น เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของเซราไมด์
ผิวมันมีน้ำมันส่วนเกินอยู่บนผิวหนัง ซึ่งมักทำให้เกิดปัญหาสิว รูขุมขนกว้าง และความมันเงา การสครับช่วยขจัดความมันส่วนเกินและเซลล์ผิวที่อุดตันรูขุมขน
ส่วนผสมที่ควรมองหา:
● ถ่านไม้ไผ่ หรือ ดินโคลน: ช่วยดูดซับความมัน
● กรดซาลิไซลิก: ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน
● เปลือกวอลนัทบดละเอียด: ช่วยทำความสะอาดล้ำลึก
ตัวอย่างสครับ:
● สครับถ่านไม้ไผ่: ดูดซับความมันและขจัดสิ่งสกปรก
● สครับดินโคลนผสมเปลือกวอลนัท: ทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก
เคล็ดลับการสครับผิวมัน:
● ใช้สครับสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้น เพราะการสครับบ่อยเกินไปจะกระตุ้นการผลิตน้ำมัน
● หลังสครับ ให้บำรุงด้วยเซรั่มหรือมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา
สำหรับผิวบอบบาง การเลือกสครับเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เพราะผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือผื่นแดง
ส่วนผสมที่ควรมองหา:
● ข้าวโอ๊ต: ช่วยปลอบประโลมผิว
● น้ำผึ้ง: มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ
● สารสกัดจากว่านหางจระเข้: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง
ตัวอย่างสครับ:
● สครับข้าวโอ๊ตผสมน้ำผึ้ง: ให้ความอ่อนโยนต่อผิว
● สครับเจลว่านหางจระเข้: เหมาะสำหรับผิวที่แพ้ง่าย
เคล็ดลับการสครับผิวบอบบาง:
● ทดสอบผลิตภัณฑ์บนท้องแขนก่อนใช้
● ใช้สครับที่มีเม็ดขัดละเอียดและไม่บาดผิว
● เลือกเวลาที่เหมาะสม: เวลาที่ดีที่สุดคือช่วงกลางคืน เพราะผิวจะได้ฟื้นฟูตัวเอง
● อย่าลืมความชุ่มชื้น: หลังสครับ ผิวอาจสูญเสียความชุ่มชื้น ควรบำรุงผิวทันที
● ควรหลีกเลี่ยง: การสครับบริเวณที่มีสิวอักเสบ ผิวลอก หรือแผล
● Book: The Complete Guide to Skin Care
● Health and beauty website: www.skincareguide.com
● Research on exfoliation from the National Library of Medicine