Research Blog
งานวิจัย
Beauty Blog
ความงาม
Business Icon
ธุรกิจ
SB Interlab News
ข่าวสารเอสบี

ผลกระทบของการเล่นกีฬาและนวดแผนไทยต่อกรดแลคติกและอัตราการเต้นของหัวใจ

August 7, 2024
Reading Count
Table of Contents

ผลกระทบของการเล่นกีฬาและนวดแผนไทยต่อกรดแลคติกและอัตราการเต้นของหัวใจ

การรักษาสุขภาพผ่านการออกกำลังกายนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการมีวิถีชีวิตที่ดี แต่ก็มักจะมาพร้อมกับความท้าทายในเรื่องของการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อและอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มสูงขึ้น งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นถึงประโยชน์สำคัญของการนวดกีฬาและการนวดแผนไทยในการลดผลกระทบเหล่านี้ บทความนี้จะเจาะลึกถึงรายละเอียดทางเทคนิคและการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นว่าการนวดเหล่านี้ช่วยลดการสะสมของกรดแลคติกและอัตราการเต้นของหัวใจหลังออกกำลังกายอย่างไร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งนักกีฬาและผู้ที่สนใจการออกกำลังกาย

บทบาทของกรดแลคติกในความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ

กรดแลคติกเป็นผลพลอยได้ของกระบวนการหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง เมื่อร่างกายต้องการพลังงานในอัตราที่เร็วกว่าการลำเลียงออกซิเจน ร่างกายจะเปลี่ยนไปใช้การเผาผลาญแบบไม่ใช้ออกซิเจน ส่งผลให้เกิดกรดแลคติก การสะสมของกรดแลคติกนี้จะนำไปสู่ความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อและความเจ็บปวด ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการเล่นกีฬา

กลไกการผลิตกรดแลคติก

ระหว่างการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง ร่างกายจะสลายกลูโคสเพื่อเป็นพลังงานผ่านกระบวนการไกลโคไลซิส ในกรณีที่ไม่มีออกซิเจนเพียงพอ กระบวนการนี้จะสร้างกรดแลคติกขึ้น แม้ว่ากรดแลคติกบางส่วนจะถูกใช้โดยตับในการผลิตพลังงาน แต่หากมีปริมาณมากเกินไปก็จะสะสมในกล้ามเนื้อ ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายและเมื่อยล้า

ผลกระทบต่อประสิทธิภาพการเล่นกีฬา

ระดับกรดแลคติกที่สูงสามารถทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพลดลง ทำให้เกิดความรู้สึกแสบร้อนและทำให้การหดตัวของกล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพน้อยลง ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงในการบาดเจ็บอีกด้วย การจัดการระดับกรดแลคติกจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬาที่ต้องการรักษาประสิทธิภาพสูงสุด

ประโยชน์ของการนวดกีฬาในการลดระดับกรดแลคติก

การนวดกีฬามีการศึกษามาอย่างกว้างขวางถึงบทบาทในการพัฒนาสภาพร่างกายและลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์จากการออกกำลังกายที่หนัก เทคนิคที่ใช้ในการนวดกีฬา เช่น การลูบ (Effleurage) การนวด (Petrissage) การสั่นสะเทือน (Vibration) และการตบ (Tapotement) ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและส่งเสริมการขจัดกรดแลคติกออกจากกล้ามเนื้อ

เทคนิคและผลลัพธ์ที่ได้

● Effleurage: เทคนิคนี้ประกอบด้วยการลูบยาวและการลูบเบา ซึ่งช่วยในการอบอุ่นกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยในขั้นตอนแรกของการกำจัดกรดแลคติก

●  Petrissage: เทคนิคนี้ประกอบด้วยการนวดและบีบ ซึ่งช่วยในการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อชั้นลึกมากขึ้น ส่งเสริมการระบายน้ำเหลืองและลดความตึงของกล้ามเนื้อ

●  Vibration และ Tapotement: เทคนิคเหล่านี้ใช้การตบและการเขย่า ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดความตึงของกล้ามเนื้อ

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์

การวิจัยที่ดำเนินการโดย Yuni Fitriyah Ningsih และคณะ แสดงให้เห็นว่าการนวดกีฬาช่วยลดระดับกรดแลคติกหลังการออกกำลังกายได้อย่างมีนัยสำคัญ การศึกษาของพวกเขาใช้กลุ่มตัวอย่างนักศึกษาชายที่ออกกำลังกายแบบซับแม็กซิมัม (Submaximal Exercise) ตามด้วยการนวดกีฬา ซึ่งพบว่าระดับกรดแลคติกและอัตราการเต้นของหัวใจลดลงอย่างเห็นได้ชัด

การนวดแผนไทยและประโยชน์เฉพาะทาง

การนวดแผนไทยนั้นแตกต่างจากการนวดทั่วไป เนื่องจากมีการผสมผสานโยคะและการกดจุด การบำบัดแบบดั้งเดิมจากประเทศไทยนี้เน้นที่การยืดกล้ามเนื้อและการทำงานกับเส้นพลังงาน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มการไหลของพลังงานในร่างกายอีกด้วย

เทคนิคการนวดแผนไทย

● การกดจุด: การนวดแผนไทยใช้การกดจุดบนจุดเฉพาะตามเส้นพลังงานของร่างกายที่เรียกว่า เส้นเซ็น ซึ่งช่วยในการคลายความตึงของกล้ามเนื้อและปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด

● การยืดและการจัดการ: การนวดแผนไทยใช้การยืดแบบโยคะ ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดความตึงของกล้ามเนื้อ การผสมผสานระหว่างการยืดแบบพาสซีฟและการกดลึกช่วยให้กรดแลคติกถูกขับออกจากร่างกาย

● การใช้แรงจากร่างกาย: นักบำบัดมักใช้มือ ศอก เข่า และเท้าในการกด ซึ่งทำให้การนวดนั้นลึกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ความมีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเต้นของหัวใจ

งานวิจัยของ Ningsih และคณะ ยังชี้ให้เห็นว่าการนวดแผนไทยมีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเต้นของหัวใจมากกว่าการนวดกีฬา การผสมผสานของการยืด การกดจุด และเทคนิคการผ่อนคลายทำให้ร่างกายผ่อนคลายมากขึ้นและอัตราการเต้นของหัวใจกลับสู่ระดับปกติได้เร็วขึ้น

การเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างการนวดกีฬาและการนวดแผนไทย

การนวดทั้งสองแบบนี้มีวิธีการและประโยชน์ที่แตกต่างกัน ทำให้เหมาะสมสำหรับความต้องการฟื้นฟูที่ต่างกันไป การนวดกีฬามุ่งเน้นไปที่การจัดการกล้ามเนื้อผ่านการเคลื่อนไหวเชิงกล เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลดกรดแลคติก ในขณะที่การนวดแผนไทยผสมผสานการยืดและการกดจุดเพื่อเพิ่มการไหลของพลังงานและการผ่อนคลาย

การลดกรดแลคติก

การนวดกีฬาถูกพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพในการลดระดับกรดแลคติกได้อย่างรวดเร็วมากกว่า เนื่องจากการใช้เทคนิคการจัดการกล้ามเนื้อโดยตรงที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและระบบน้ำเหลือง

การลดอัตราการเต้นของหัวใจ

การนวดแผนไทยเป็นเลิศในการลดอัตราการเต้นของหัวใจหลังออกกำลังกาย เนื่องจากวิธีการที่ครอบคลุม ซึ่งผสมผสานการออกกำลังกายทางลมหายใจและเทคนิคการผ่อนคลายเชิงลึก ช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดฟื้นฟูได้เร็วขึ้น

สรุป

การผสานการบำบัดด้วยการนวดกีฬาและการนวดแผนไทยในกิจวัตรของนักกีฬาสามารถช่วยเพิ่มการฟื้นฟู ลดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ และปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมได้ การทำความเข้าใจถึงประโยชน์และเทคนิคเฉพาะของแต่ละวิธีจะช่วยให้นักกีฬาและผู้ที่สนใจเลือก

References
  • Ningsih, Y. F., Kurniasih, F., Puspitaningrum, D. A., Mahmudi, K., & Wardoyo, A. A. (2017). The Effect of Sport Massage and Thai Massage to Lactic Acid and Pulse Decreased. International Journal of Advanced Engineering Research and Science (IJAERS), 4(12), 92-98. DOI: Link
Recommended Products

Related Knowledges