Research Blog
งานวิจัย
Beauty Blog
ความงาม
Business Icon
ธุรกิจ
SB Interlab News
ข่าวสารเอสบี

ตลาดน้ำมันนวดเติบโตสูงระหว่างปี 2024 ถึง 2032

September 3, 2024
Reading Count
Table of Contents

ตลาดน้ำมันนวดที่กำลังเติบโต: ข้อมูลเชิงลึกและแนวโน้ม

ตลาดน้ำมันนวดทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะขยายตัวที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 10.7% ระหว่างปี 2024 ถึง 2032 การเติบโตนี้เกิดจากการที่ผู้คนมีความตระหนักในเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีเพิ่มขึ้น การขยายตัวของเมือง และการเติบโตของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เมื่อผู้บริโภคใส่ใจในสุขภาพและการดูแลตัวเองมากขึ้น ความต้องการผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและออร์แกนิก รวมถึงน้ำมันนวด ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย บล็อกนี้จะอธิบายถึงแนวโน้มหลักๆ สถิติ และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดน้ำมันนวด เพื่อให้ผู้ที่สนใจในอุตสาหกรรมนี้ได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน

ความต้องการน้ำมันนวดที่เพิ่มสูงขึ้น

ตลาดน้ำมันนวดทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในช่วงทศวรรษหน้า จากรายงานของ Acute Market Reports ระบุว่าตลาดคาดว่าจะเติบโตที่ CAGR 10.7% ระหว่างปี 2024 ถึง 2032 การเติบโตที่น่าประทับใจนี้มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย รวมถึงความตระหนักในประโยชน์ของการบำบัดด้วยการนวด ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของสปาและศูนย์สุขภาพ และการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซ ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไป

การเติบโตของตลาดยังได้รับแรงสนับสนุนจากประชากรในเมืองที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีรายได้ที่สูงขึ้นและมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์สุขภาพและการดูแลตัวเอง นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรังและความเครียด ยังเป็นปัจจัยที่กระตุ้นความต้องการน้ำมันนวดเพื่อบำบัดและคลายความเครียดอีกด้วย

น้ำมันอัลมอนด์ครองตำแหน่งผู้นำด้านรายได้

ในปี 2023 น้ำมันอัลมอนด์เป็นผู้นำในตลาดจากการสร้างรายได้มากที่สุด น้ำมันเหล่านี้เป็นที่นิยมเนื่องจากมีสารอาหารสูงและสามารถใช้ได้หลากหลายเทคนิคในการนวด น้ำมันอัลมอนด์อุดมไปด้วยวิตามิน E และ A ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิว จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวควบคู่ไปกับการผ่อนคลายและการดูแลสุขภาพ ความต้องการน้ำมันอัลมอนด์คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งต่อไป เนื่องจากการใช้ประโยชน์ที่หลากหลายและคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ

การเติบโตอย่างรวดเร็วของน้ำมันมะพร้าว

แม้ว่าน้ำมันอัลมอนด์จะเป็นผู้นำในปี 2023 แต่น้ำมันมะพร้าวคาดว่าจะมีอัตราเติบโตสูงที่สุดในช่วงเวลาที่คาดการณ์ไว้ น้ำมันมะพร้าวเป็นที่รู้จักในเรื่องคุณสมบัติที่ให้ความชุ่มชื้น และมักถูกใช้ในการบำบัดด้วยการนวดเพื่อบำรุงและให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านจุลชีพและลดการอักเสบ ทำให้น้ำมันมะพร้าวเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการใช้งานเพื่อบำบัด ความนิยมที่เพิ่มขึ้นต่อผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและออร์แกนิก ยิ่งกระตุ้นความต้องการน้ำมันมะพร้าวมากขึ้นไปอีก

การแบ่งส่วนตลาดตามกลุ่มผู้ใช้งาน

ตลาดน้ำมันนวดสามารถแบ่งตามกลุ่มประชากรผู้ใช้ โดยกลุ่มผู้ใหญ่สร้างรายได้สูงที่สุดในปี 2023 ผู้ใหญ่มักใช้น้ำมันนวดเพื่อการผ่อนคลาย บรรเทาความเครียด และจัดการกับอาการปวด อย่างไรก็ตาม กลุ่มทารกคาดว่าจะเติบโตเร็วที่สุดในช่วงเวลาที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากพ่อแม่มีแนวโน้มที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและปลอดภัยสำหรับทารกมากขึ้น น้ำมันนวดมักถูกใช้เพื่อส่งเสริมการผ่อนคลายและปรับปรุงการนอนหลับให้ทารก แนวโน้มนี้คาดว่าจะเพิ่มความต้องการน้ำมันนวดที่เป็นมิตรกับทารก

ผู้เล่นหลักในตลาดและการดำเนินการทางกลยุทธ์

ตลาดน้ำมันนวดมีการแข่งขันสูง โดยมีผู้เล่นหลักหลายรายที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการขยายตัวทั่วโลก เพื่อเสริมสร้างตำแหน่งในตลาด บริษัทต่างๆ กำลังลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเพื่อเปิดตัวสูตรใหม่ๆ และผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป นอกจากนี้ การเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และการเข้าซื้อกิจการเป็นกลยุทธ์ทั่วไปที่ผู้เล่นในตลาดใช้ เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์และเข้าถึงตลาดใหม่ๆ

ผู้เล่นหลักในตลาดประกอบด้วยบริษัทต่างๆ เช่น Biotone, Bon Vital, The Body Shop, Biopark Cosmetics และ L'Occitane เป็นต้น บริษัทเหล่านี้กำลังใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงและเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวางเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาด

References

Acute Market Reports. "Massage Oil Market Expected to Grow at 10.7% by 2032." Acute Aarket Reports

Recommended Products

Related Knowledges