แชมพูสมุนไพรกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีส่วนผสมจากธรรมชาติ ปลอดภัยกว่า และช่วยลดผลข้างเคียงที่มักเกิดจากแชมพูทั่วไปในตลาด แต่ถึงแม้จะมีข้อดีเหล่านี้ แชมพูสมุนไพรก็ยังคงเจาะตลาดได้ยาก เนื่องจากแชมพูทั่วไปในตลาดมักดึงดูดผู้ใช้ด้วยฟองที่หนานุ่มและความใสของผลิตภัณฑ์ บทความนี้จะทบทวนการศึกษาที่เปรียบเทียบสูตรแชมพูสมุนไพรกับแชมพูทั่วไป โดยดูจากปัจจัยต่างๆ เช่น ค่า pH ความหนืด ความสามารถในการทำความสะอาด และประสิทธิภาพโดยรวม
แชมพูเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ใช้กันทั่วโลก มีจุดประสงค์หลักสองอย่างคือ ทำความสะอาดและบำรุงผมและหนังศีรษะ แม้ว่าแชมพูสังเคราะห์จะครองตลาดอยู่ แต่ก็มีความสนใจในทางเลือกที่เป็นสมุนไพรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แชมพูสังเคราะห์มักมีส่วนผสมของซัลเฟตอย่างโซเดียมลอริลซัลเฟต (SLS) ซึ่งอาจทำร้ายผิวที่บอบบางและทำให้เกิดปัญหาอย่างผิวแห้งหรือระคายเคือง
ในทางกลับกัน แชมพูสมุนไพรผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ ซึ่งเชื่อว่าอ่อนโยนและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหนังศีรษะในระยะยาว ส่วนผสมที่พบบ่อยในสูตรเหล่านี้ได้แก่ ตำแยแมงมุม (สมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม) ดอกคาโมมายล์ (ใช้เพื่อคุณสมบัติในการบำรุง) และส้มป่อย (สารทำความสะอาดธรรมชาติ) อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแชมพูสมุนไพรจะปลอดภัยกว่า แต่มักขาดความน่าดึงดูดทางสายตาของแชมพูสังเคราะห์ เช่น ฟองที่เยอะ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้บริโภคในการเลือกผลิตภัณฑ์
การศึกษานี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อคิดค้นสูตรและประเมินแชมพูสมุนไพร และเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับแชมพูที่มีขายในท้องตลาดสองยี่ห้อ งานวิจัยนี้พยายามตรวจสอบว่าแชมพูสมุนไพรเหล่านี้สามารถเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันได้หรือไม่ โดยเน้นที่คุณสมบัติเฉพาะ เช่น ความสามารถในการทำความสะอาด ความสมดุลของค่า pH ความหนืด และความคงตัวของฟอง
● การเตรียมแชมพูสมุนไพร แชมพูสมุนไพรถูกเตรียมโดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ: ตำแยแมงมุม ดอกคาโมมายล์ ตะไคร้ และส้มป่อย ส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ถูกผสมกับฐานของไทรเอทาโนลามีนลอริลซัลเฟต (สารลดแรงตึงผิว) และน้ำ กระบวนการผลิตรวมถึงการให้ความร้อน การผสม และการปรับค่า pH ให้เหมาะกับหนังศีรษะ
● พารามิเตอร์การทดสอบ เพื่อประเมินแชมพู มีการทดสอบหลายอย่าง โดยเน้นที่:.
● ลักษณะทางกายภาพและความสมดุลของค่า pH สูตรสมุนไพรทั้งหมดแสดงความใสและการเกิดฟองที่ดี มีสีน้ำตาลเข้มเนื่องจากส่วนผสมสมุนไพร ระดับ pH ของแชมพูทั้งหมดอยู่ในช่วง 5.5-5.9 ซึ่งใกล้เคียงกับค่า pH ตามธรรมชาติของหนังศีรษะ นี่แสดงว่าสูตรต่างๆ ปลอดภัยสำหรับการใช้งานเป็นประจำโดยไม่รบกวนความสมดุลตามธรรมชาติของหนังศีรษะ
● ปริมาณของแข็งและความหนืด ปริมาณของแข็งแตกต่างกันไปในแต่ละสูตร โดยมีค่าตั้งแต่ 22.11% ถึง 29.31% ปริมาณของแข็งที่สูงขึ้นมักส่งผลให้แชมพูข้นขึ้น แต่ถ้ามากเกินไปอาจทำให้ล้างออกยาก การอ่านค่าความหนืดแสดงให้เห็นว่าสูตรสมุนไพรมีพฤติกรรมแบบซูโดพลาสติก ซึ่งหมายความว่าง่ายต่อการกระจายตัวบนเส้นผม แต่ยังคงความข้นเมื่อหยุดนิ่ง
● ประสิทธิภาพการทำความสะอาดและการชำระล้าง แชมพูสมุนไพรแสดงประสิทธิภาพการทำความสะอาดในระดับปานกลางถึงดี เปอร์เซ็นต์ของคราบมันที่ถูกขจัดอยู่ในช่วง 18.81% ถึง 32.51% ในขณะที่แชมพูที่มีขายในท้องตลาดแสดงค่าที่สูงกว่าเล็กน้อย (33.61%) แม้ว่าแชมพูสมุนไพรจะไม่แรงพอในการทำความสะอาดผมที่สกปรกมาก แต่ก็มีประสิทธิภาพสำหรับการใช้งานปกติ
● แรงตึงผิวและความคงตัวของฟอง แชมพูที่ดีควรลดแรงตึงผิวของน้ำบริสุทธิ์ให้อยู่ที่ประมาณ 35-40 ไดน์/ซม. สูตรสมุนไพรทั้งหมดทำให้เกิดแรงตึงผิวระหว่าง 31-34 ไดน์/ซม. ซึ่งบ่งชี้ถึงคุณสมบัติการทำความสะอาดที่ดี ความคงตัวของฟองคงที่เมื่อเวลาผ่านไป โดยสูญเสียปริมาตรน้อยมาก ดังแสดงในตารางที่ 1 ด้านล่าง
การศึกษานี้สรุปได้ว่า แม้แชมพูสมุนไพรจะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและดูแลเส้นผมใกล้เคียงกับแชมพูในท้องตลาด แต่ยังขาดคุณสมบัติด้านความสวยงาม เช่น การเกิดฟองที่หนานุ่ม ความเชื่อที่ว่าแชมพูที่เกิดฟองดีจะทำความสะอาดได้ดีจึงยังมีอิทธิพลสูงในผู้บริโภค ส่งผลให้การยอมรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรในตลาดมีข้อจำกัด
● Sharma, R.M., Shah, K., & Patel, J. (2011). *Evaluation of Prepared Herbal Shampoo Formulations and Comparison with Marketed Shampoos*. International Journal of Pharmacy and Pharmaceutical Sciences, 3(4), 402-405.
● Eldridge, J.M. (1997). Surfactant Science Series, 68, 83-104.
● Aghel, N., Moghimipour, B., & Dana, R.A. (2007). *Iranian Journal of Pharmaceutical Research*, 6(3), 167-172.