Research Blog
งานวิจัย
Beauty Blog
ความงาม
ไลฟ์สไตล์
SB Interlab News
ข่าวสารเอสบี

วิตามินบำรุงผม เลือกอย่างไรให้ผมแข็งแรงตั้งแต่รากจรดปลาย

April 19, 2025
Reading Count
Table of Contents

วิตามินบำรุงผมคืออะไร? จำเป็นกับผมจริงหรือ?

วิตามินบำรุงผม คือสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพเส้นผม ช่วยให้ผมแข็งแรง ดกดำ มีน้ำหนัก และลดปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผม เช่น ผมร่วง ผมบาง ผมแห้งเสีย หรือขาดหลุดร่วงง่าย ซึ่งร่างกายของเราต้องการสารอาหารหลากหลายในการบำรุงสุขภาพโดยรวม รวมถึงสุขภาพของหนังศีรษะและเส้นผมด้วย

หลายคนอาจคิดว่าเพียงแค่ใช้แชมพูหรือครีมนวดผมก็เพียงพอแล้วในการดูแลเส้นผม แต่ความจริงแล้วเส้นผมต้องการการดูแลลึกถึงระดับเซลล์ ซึ่งวิตามินบำรุงผมสามารถช่วยเติมเต็มสิ่งที่ร่างกายขาดหรือบำรุงเพิ่มเติมให้แข็งแรงขึ้น

วิตามินบำรุงผมมีทั้งแบบกินและแบบใช้ภายนอก เช่น เซรั่ม น้ำมันบำรุง หรือสเปรย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูเส้นผมจากความเสียหาย และช่วยกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผมใหม่ให้แข็งแรงกว่าเดิม

ปัจจุบันมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นว่าวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน B7 (Biotin), วิตามิน E, วิตามิน C, ธาตุสังกะสี (Zinc) และเหล็ก (Iron) มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม และสามารถช่วยลดภาวะผมร่วงเรื้อรังที่มีสาเหตุมาจากการขาดสารอาหารได้อย่างมีนัยสำคัญ

การใช้วิตามินบำรุงผมจึงไม่ใช่แค่กระแสนิยม แต่เป็นทางเลือกหนึ่งของการดูแลเส้นผมแบบองค์รวม โดยเฉพาะในยุคที่คนเผชิญกับมลภาวะ ความเครียด และการใช้สารเคมีกับเส้นผมมากขึ้นเรื่อยๆ

ปัญหาผมแบบไหนที่ควรใช้วิตามินบำรุง?

วิตามินบำรุงผมเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ฮอร์โมน การขาดสารอาหาร พันธุกรรม มลภาวะ หรือพฤติกรรมการดูแลเส้นผมที่ไม่เหมาะสม โดยปัญหาหลักๆ ที่ควรพิจารณาใช้วิตามินบำรุงได้แก่:

1. ผมร่วง ผมบาง

● สาเหตุหลักมักมาจากการขาดวิตามินบี ไบโอติน ธาตุเหล็ก หรือสังกะสี

● วิตามินกลุ่ม B ช่วยบำรุงรากผม กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่

2. ผมแห้งเสียจากความร้อนและสารเคมี

● การทำสี ดัด ยืด และไดร์บ่อยครั้ง ทำให้เส้นผมสูญเสียเคราตินและไขมันตามธรรมชาติ

● วิตามิน E และโปรตีนจากธรรมชาติช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผมที่เสียหาย

3. หนังศีรษะแห้ง มีรังแค คัน

● หนังศีรษะไม่สมดุล อาจขาดความชุ่มชื้นหรือมีการอักเสบ

● วิตามิน A และ E ช่วยรักษาความสมดุลของน้ำมันบนหนังศีรษะ

4. ผมมันง่าย

● อาจเกิดจากฮอร์โมนหรือพันธุกรรม ทำให้รูขุมขนผลิตน้ำมันมากกว่าปกติ

● วิตามิน B6 และ Zinc มีบทบาทในการควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน

5. เส้นผมไม่แข็งแรง แตกปลาย ขาดง่าย

● มักเกิดจากขาดโปรตีน วิตามินซี หรือไบโอติน

● การเสริมวิตามินเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของเส้นผม

ประเภทของวิตามินบำรุงผมที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้

วิตามิน A

ช่วยผลิตน้ำมันตามธรรมชาติบนหนังศีรษะ ซึ่งจำเป็นต่อการรักษาความชุ่มชื้น หากขาดวิตามิน A อาจทำให้หนังศีรษะแห้งและเป็นรังแคได้ง่าย

วิตามิน B รวม

B7 (Biotin): ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม ป้องกันผมร่วง

B3 (Niacin): ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดสู่หนังศีรษะ

B5 (Pantothenic Acid): ฟื้นฟูผมเสียและป้องกันการหงอกก่อนวัย

วิตามิน C

เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดความเสียหายของเส้นผมจากแสงแดดและมลภาวะ นอกจากนี้ยังช่วยการดูดซึมธาตุเหล็ก ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของผม

วิตามิน D

เกี่ยวข้องกับการสร้างรูขุมขนใหม่ การขาดวิตามิน D อาจส่งผลให้รูขุมขนฝ่อ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของผมร่วง

วิตามิน E

ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในหนังศีรษะ เพิ่มออกซิเจนให้กับรากผม และฟื้นฟูผมแห้งเสียให้ชุ่มชื้น

ธาตุเหล็ก

สำคัญมากต่อการผลิตเม็ดเลือดแดงที่ส่งออกซิเจนไปยังรากผม การขาดธาตุเหล็กอาจทำให้ผมร่วงรุนแรง

สังกะสี (Zinc)

เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและการผลิตน้ำมันในต่อมไขมันรอบรูขุมขน หากขาดจะทำให้ผมร่วงได้

โอเมก้า-3

ช่วยให้หนังศีรษะชุ่มชื้น และลดการอักเสบ

วิธีเลือกวิตามินบำรุงผมให้เหมาะกับตัวเอง

1. ประเมินสภาพผมของตัวเองก่อน

สังเกตว่าคุณมีปัญหาอะไรบ้าง เช่น ผมร่วงมากแค่ไหน หนังศีรษะมันหรือแห้ง ผมผ่านการทำเคมีหรือไม่

2. อ่านฉลากและส่วนผสม

ควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่ระบุชัดเจนว่าสำหรับผมร่วง ผมแห้งเสีย หรือช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ พร้อมตรวจสอบว่ามีสารอาหารที่คุณต้องการหรือไม่

3. เลือกสูตรที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์

● หากคุณมีเวลาน้อย สูตรแบบแคปซูลหรือสเปรย์อาจเหมาะกว่า

● ถ้าชอบบำรุงแบบเฉพาะจุด เลือกเซรั่มหรือออยล์

4. เลือกแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ

ตรวจสอบจากใบรับรอง อย. หรือรีวิวจากผู้ใช้งานจริง

5. ปรึกษาแพทย์หากมีอาการรุนแรง

หากผมร่วงผิดปกติ ควรตรวจหาสาเหตุภายใน เช่น ภาวะโลหิตจาง ฮอร์โมนผิดปกติ

วิธีเลือกวิตามินบำรุงผมให้เหมาะกับตัวเอง

 แนะนำวิธีการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์วิตามินบำรุงผมให้เหมาะกับสภาพผมและปัญหาเฉพาะตัว โดยพิจารณาจาก

● ประเภทของผม (มัน แห้ง ดัด/ทำสี)

● ปัญหาหลักที่ต้องการแก้

● งบประมาณและระยะเวลาเห็นผล

● ความน่าเชื่อถือของแบรนด์และรีวิวผู้ใช้
พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากมีภาวะผมร่วงรุนแรง

References

● American Academy of Dermatology Association. (2023). Hair loss: Who gets and causes.

● Harvard Health Publishing. (2022). Vitamins and hair growth: What’s the connection?

● Mayo Clinic. (2022). Biotin and hair health.

● WebMD. (2023). Top vitamins and minerals for healthy hair.

● Journal of Cosmetic Dermatology. (2021). The role of micronutrients in hair growth.

Recommended Products

Related Knowledges